เลขาธิการสมัชชาประชาชนอีสานฯแจ้งความดำเนินคดีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติปล่อยให้ม๊อบขวางทางขบวนเสด็จ
เมื่อวันที่ 15 ต.ค.2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองหนองบัวลำภู นายทศพล พรหมเกตุ อายุ 51 ปี เลขาธิการสมัชชาประชาชนอีสานเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (สมอท.) ได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ กับ พ.ต.ต ไพโรจน์ คำมะตะศิลา พนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองบัวลำภู เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ฐานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีปล่อยให้ผู้ชุมนุมของกลุ่มคณะราษฎร 2563 ปิดกั้นกีดขวางขบวนเสด็จของสมด็จพระราชินี และ ผู้ชุมนุมมีการด่าทอแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อเชื้อพระวงศ์ พร้อมกับนายทศพลฯ ได้มอบแผ่นดีวีดีบันทึกเหตุการณ์ ประกอบการดำเนินคดี จำนวน 1 แผ่น เหตุเกิดที่แยกนางเลิ้ง ถนนพิษณุโลก เขตนางเลิ้ง กรุงทพมหานครฯ เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2563 เวลาระหว่าง 16.00 -18.00 น.
โดยนายทศพล พรหมเกตุ อายุ 51 ปี เลขาธิการสมัชชาประชาชนอีสานเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (สมอท.) ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า เนื่องจากเหตุการณ์ชุมนุมของคณะราษฎร 2563 วันที่ 14 ตุลาคม 2563 ที่ผ่านมาซึ่งเกิดเหตุการณ์เป็นที่เศร้าสะเทือนใจแก่พสกนิกรประชาชนชาวไทยผู้จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระราชินีเป็นอย่างยิ่ง เมื่อเกิดเหตุม๊อบได้ขวางขบวนเสด็จของสมเด็จพระราชินี ซึ่งจะเสด็จพระราชดำเนินกลับพระราชวัง ซึ่งเหตุดังกล่าวไม่ควรเกิดขึ้นเลยในประเทศไทยตลอด 88 ปี ของการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ไม่เคยเกิดเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าว การกระทำของคณะราษฎร 2563ก่อให้เกิดความเศร้าสะเทือนใจต่อผู้จงรักภักดีเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งมีความเห็นว่าการกระทำผิดที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้มี 2 กลุ่มซึ่งเป็นผู้กระทำผิดกลุ่มแรกคือกลุ่มคณะราษฎร 2563 และเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยพระองค์ท่าน และพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ฯมีคำสั่งว่าจะดำเนินคดีกับแกนนำผู้ชุมนุมโดยเด็ดขาดก็มีการจับกุมแกนนำผู้ชุมนุมไปแล้วหลายคนยอมรับและเชื่อมั่นในคำสั่งของท่านนายกรัฐมนตรี ฯ
แต่อีกส่วนหนึ่งที่ต้องรับผิดชอบในการกระทำความผิดด้วยก็คือเจ้าหน้าที่รัฐซึ่งเป็นผู้ดูแลรักษาความปลอดภัยของสมเด็จพระราชินี และเชื้อพระวงศ์ ทางสมัชชาประชาชนอีสานเพื่อการพัฒนาประเทศไทย เราจึงต้องแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 เป็นการละเว้นปฏิบัติหน้าที่หรือปฏิบัติหน้าที่โดยบกพร่อง ประเด็นสำคัญที่เป็นเจตนารมณ์ก็คือเราไม่ต้องการเห็นเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทางเจ้าหน้าที่รัฐจะมีความใส่ใจตั้งใจมุ่งมั่นอย่างแท้จริงที่จะจัดการกับผู้ชุมนุมเป็นไปโดยเด็ดขาดซึ่งการชุมนุมของคณะราษฎร 2563 ถือว่าไม่มีความสงบและก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ต่อเสรีภาพของเชื้อพระวงศ์ และประชาชนผู้จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ทั่วประเทศไทยต้องออกมาร่วมด้วยช่วยกัน ทางด้าน พ.ต.ต.ไพโรจน์ คำมะตะศิลา สว.(สอบสวน)ๆ ได้รับคำร้องทุกข์ ของนายทศพลฯไว้เพื่อดำเนินคดีแล้ว เนื่องจากพื้นที่เกิดเหตุอยู่ในเขตอำนาจการสอบสวน ของพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง จึงได้รับคำร้องทุกข์ไว้เพื่อส่งไปยังพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุเพื่อให้ดำเนินการสอบสวนดำเนินคดีต่อไป.
ภาพ / ข่าว วรรธนะ ทองดี ผู้สื่อข่าวประจำ จ.หนองบัวลำภู
