ชาวบุรีรัมย์ ร่วมปล่อยพันธุ์ปลาหลังเจอแล้งสุด 60 ปี ผู้ว่าเชื่อไม่แล้งอีกแล้ว
จังหวัดบุรีรัมย์ เร่งระดมปล่อยพันธุ์ปลา ในอ่างเก็บน้ำ 2 อ่าง หลังมีฝนตกลงมาเติมน้ำในอ่างมากที่สุดในห้วง 3 ปี ผู้ว่าฯเผยปีนี้แล้งที่สุดในรอบ 60 ปี มั่นใจหลังจากนี้น้ำประปาไม่ขาดเพราะวางแผนไว้แล้ว พร้อมฝากถึงผู้ที่ชอบทำบุญด้วยการปล่อยปลา แนะมาล่องเรือปล่อยปลาที่อ่าง ได้ทั้งบุญแบบระบบนิเวศ และชมนกเกรียนพันธุ์ไทยได้ที่นี่แห่งเดียวในประเทศไทย
วันที่ 20 พ.ย.63 ผู้ว่าฯบุรีรัมย์ นำข้าราชการประชาชน ร่วมกันปล่อยพันธุ์ปลา ลงในอ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มากและอ่างเก็บน้ำห้วยตลาด ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ หลังพันธุ์ปลาทุกชนิดที่เคยมีอยู่ในอ่าง สูญพันธุ์ไปเพราะปัญหาภัยแล้ง ที่แล้งหนักที่สุดในรอบ 60 ปี
การปล่อยพันธุ์ปลาดังกล่าว ยังมีการทำพิธีสวดมนต์ เพื่อให้เป็นสิริมงคลกับผู้นำมามาบริจาคและร่วมปล่อยพันธุ์ปลากว่า 200,000 ในครั้งนี้ มีคนเข้าร่วมทำพิธีปล่อยกว่า 200 คน โดยหลังจากทำพิธีเสร็จ แต่ละคนได้นำถุงปลา ลงเรือไปปล่อยตามจุดต่างๆในอ่างเก็บน้ำ เพื่อให้เกิดการกระจายให้มากทีสุด
นายธัชกร หัตถาธยากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า อ่างเก็บน้ำห้วยตลาดและอ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มาก มีเนื้อที่รวมกว่า 8,500 ไร่ สามารถจุน้ำได้กว่า 56 ล้าน ลบม.ที่ผ่านมากว่า 60 ปี อ่างเก็บน้ำทั้งสองแห่ง ไม่เคยแห้งมาก่อน
แต่มาเจอภัยแล้วติดต่อกัน 3 ปี ไม่มีฝนมาเติมอ่างเก็บน้ำ จนทำให้ปี 2563 น้ำแห้งขอดเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ ส่งผลให้การประปาบุรีรัมย์ ไม่สามารถเอาน้ำไปผลิตน้ำประปา ส่งในเขตบริการซึ่งมีมากกว่า 34,000 ครอบครัวได้
ซึ่งจังหวัดบุรีรัมย์ ได้มีการวางแผนผันน้ำจากหลายแห่งเตรียมมารับมือก่อนหน้านี้ โชคดีมีปีนี้มีพายุเข้ามาหลายลูก มีปริมาณฝนตกมากที่สุดถึง 120 มิลลิเมตร ส่งผลให้น้ำในอ่างขณะนี้มีมากกว่า 27 ล้าน ลบม.แล้ว ยังไม่รวมกับแห่งน้ำสำรองที่เตรียมไว้อีกกว่า 30 ลบม.ขณะปริมาณน้ำที่ต้องการนำไปผลิตน้ำประปาจะใช้เพียง 15-18 ล้าน ลบม.ต่อปีเท่านั้น จึงมีความมั่นใจว่าปีนี้และปีต่อ ๆ ไป น้ำประปาของคนบุรีรัมย์ จะไม่ขาดอย่างแน่นอน
ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวด้วยว่า ตอนนี้ได้ปล่อยพันธุ์ปลาไปแล้วกว่า 500,000 ตัว แต่ยังไม่เพียงพอกับพื้นที่อันกว้างใหญ่ แหล่งน้ำแห่งนี้สามารถรับปลาได้อีกมากกว่า 3 ล้านตัว
จึงอยากจะเชิญชวนให้ประชาชนทั่วไปที่ชอบการทำบุญด้วยการปล่อยปลา ให้หันมาปล่อยที่อ่างเก็บน้ำทั้ง 2 แห่งนี้ ซึ่งตอนนี้เจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมสถานที่ปล่อยปลาไว้แล้ว 2 จุด หากต้องการลงเรือไปปล่อยปลา เจ้าหน้าที่ก็มีเรือไว้คอยบริการให้
ทั้งนี้อ่างเก็บน้ำทั้งสองแห่ง เป็นแหล่งน้ำสำคัญแห่งเดียวของประเทศไทย เนื่องจากเป็นแหล่งชุ่มน้ำที่เหมาะสำหรับการดำรงชีวิตอยู่ของ”นกเกรียนพันธุ์ไทย”ที่เคยสูญพันธุ์ไปแล้ว ซึ่งตอนนี้มีนกเกรียนพันธุ์ไทยถูกนำมาปล่อยและขยายพันธุ์เองได้แล้วที่อ่างเก็บแห่งนี้ นักท่องเที่ยวสามารถมาปล่อยพันธุ์ปลา และส่องกล้องดูนกเกรียนพันธุ์ไทยที่หาดูได้ยากแห่งเดียวคือที่นี่อีกด้วย.
ภาพ-ข่าว วาทิตย์ แสนธุปี ผู้สื่อข่าวประจำ จ.บุรีรัมย์
