ปิยบุตร สุดเหว๋อ เจอลุงแฟนคลับบิ๊กตู่ ลุยฝ่าวง บอกอย่าแตะสถาบันฯ ขณะลงพื้นที่ลำปาง

ปิยบุตร สุดเหว๋อ เจอลุงแฟนคลับบิ๊กตู่ ลุยฝ่าวง บอกอย่าแตะสถาบันฯ ขณะลงพื้นที่ลำปาง

วันที่ 7 ก.ค.2563 ที่เฟซบุ๊กเพจ คณะก้าวหน้า Progressive Movement ได้เผยแพร่ภาพกิจกรรมที่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า พร้อม นางเยาวลักษณ์ วงษ์ประภารัตน์ กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า ได้ลงพื้นที่ร่วมพูดคุยสถานการณ์การเมืองท้องถิ่นที่ จ.ลำปาง ได้พบปะมวลชนกว่า 50 คน ที่ วัดป่ารวก ต.พิชัย อ.เมือง จ.ลำปาง

นางเยาวลักษณ์ วงษ์ประภารัตน์ กล่าวว่า “ในส่วนของการเลือกตั้งท้องถิ่นที่คณะก้าวหน้าตั้งใจจะเดินหน้า เราจะทำโดยยึดหลักสองข้อ คือไม่ซื้อสิทธิซื้อเสียง และจะไม่ใช้อิทธิพลกลุ่มการเมืองเดิมในการรณรงค์เลือกตั้งท้องถิ่น นโยบายหลักๆ ที่สำคัญของท้องถิ่นที่คณะก้าวหน้าได้เคยวางแนวนโยบายไว้ตั้งแต่สมัยเป็นพรรคอนาคตใหม่ ได้แก่ การขนส่งสาธารณะ การจัดการขยะ สิ่งแวดล้อม การกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน เช่น การพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชน นำเอกลักษณ์ของแต่ละพื้นที่ออกมาสร้างงานสร้างรายได้ เหล่านี้คือสิ่งที่เราจะนำมาศึกษาต่อและปรับให้สอดคล้องกับแต่ละท้องที่ เพื่อผลิตนโยบายร่วมกันใช้รณรงค์ในการเลือกตั้งท้องถิ่นทั่วประเทศ”

นายปิยบุตร แสงกนกกุล กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองในปัจจุบันและอนาคตที่ คณะก้าวหน้าให้ความสำคัญกับการกระจายอำนาจมาโดยตลอดตั้งแต่เป็นพรรคอนาคตใหม่ ต้องการจะสนับสนุนบุคคลให้ลงสมัครในเวทีท้องถิ่นจากทั้งสิ้น 7,800 แห่ง แต่คาดว่าจะส่งสมัครประมาณ 4,000 แห่ง รวมถึงจังหวัดลำปาง เพราะต้องการให้ประชาชนในท้องถิ่นหันมาให้ความสนใจการเลือกตั้งท้องถิ่นให้มากขึ้นเพราะถือว่าอยู่ใกล้ชิดกับประชาชนในพื้นที่มากกว่าการเลือกตั้งระดับชาติ ที่ผ่านมาตั้งแต่เริ่มตั้งพรรคอนาคตใหม่ได้ย้ำเสมอว่าเราไม่อยากเห็นการกระจายอำนาจ เพราะคำว่ากระจายคืออำนาจยังอยู่ที่ส่วนกลาง แต่มีการกระจายมาให้ท้องถิ่น ซึ่งจริงๆแล้วอำนาจเป็นของท้องถิ่นอยู่แล้ว เราจึงต้องการดึงอำนาจที่มีอยู่กลับมาให้ท้องถิ่น และที่ผ่านมาเห็นว่าการเลือกตั้งท้องถิ่นประชาชนจะเลือกที่ตัวบุคคล แต่จากนี้อยากให้เลือกที่นโยบาย

นอกจากนี้นายปิยบุตร ยังได้แสดงความไม่ค่อยพอใจเกี่ยวกับการเดินทางลงพื้นที่พบปะมวลชนของตนเองในแต่ละจังหวัดรวมถึงลำปาง เพราะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบตามประกบจำนวนมาก ที่วัดป่ารวกน่าจะมีกำลังเจ้าหน้าที่คอยสังเกตการณ์ประมาณ 30 นาย โดยระบุว่าเป็นเรื่องไม่ปกติที่เจ้าหน้าที่จะต้องมาคอยติดตามตัวเองไปทุกที่ เพราะตนเองเป็นคนไทยสามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้ทั่วประเทศและตนเองไม่ได้มาปลุกระดมอะไร มาพูดคุยเรื่องสถานการณ์การเมืองและมาบอกว่าจะส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งเท่านั้น แต่ก็เข้าใจเจ้าหน้าที่ที่ต้องมาทำตามหน้าที่เพราะต้องทำตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา แต่วิธีการแบบนี้ไม่ปกติ

“ทุกวันนี้ก็ยังไม่ทราบว่าตามผมเพราะอะไร อยากฝากถึงผู้บังคับบัญชาและถามว่าตามตนเองเพราะอะไร อาศัยอำนาจตามกฎหมายอะไร เลือกปฏิบัติหรือไม่ตามทุกคนไหม ในสายตาเจ้าหน้าที่เห็นตนเองเป็นศัตรูของชาติหรือถึงต้องตามทุกฝีก้าว อย่าใช้ข้ออ้างว่าเพื่อป้องกันความปลอดภัย อย่าใช้ข้ออ้างว่าหากไม่ทำผิดก็ไม่ต้องกลัว ใช้ข้ออ้างแบบนี้ไม่ได้ ในทางกลับกันต้องย้อนถามว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเสรีภาพมาตามตนเองทำไม เราไม่ได้ทำอะไรผิด”

หลังจากให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเสร็จก็ได้มีการถ่ายรูปกับมวลชน แต่ระหว่างนั้นได้มีคุณตาท่านหนึ่งซึ่งสนับสนุนพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เข้ามาหานายปิยบุตร โดยแสดงตัวว่าอยู่คนละฝ่ายแต่ก็เป็นคนไทยด้วยกันและได้ขอพูดคุยกับนายปิยบุตรถึงบางประเด็น ซึ่งนายปิยบุตรก็พยายามรับฟังและพยายามอธิบายในบางเรื่องเพื่อให้คุณตาสบายใจ ซึ่งไม่มีอะไรวุ่นวาย โดยใช้เวลาพูดคุยกันประมาณ 10-15 นาที ก่อนที่จะมีมวลชนขอถ่ายรูป ซึ่งคุณตาได้จับไม้จับมือและฝากนายปิยบุตรว่าให้กำลังใจ แต่ขอให้เว้นไว้เรื่องเดียวคือ เรื่องเกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์

ขอบคุณภาพ thaipost

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

ข่าวยอดนิยม